สารประกอบนี้ถูกนำมาใช้หลักๆ ในสาขาการสังเคราะห์อินทรีย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารกลางสำคัญในการผลิตยาต่างๆ โครงสร้างของมันมีคุณค่าอย่างยิ่งในการพัฒนาสารประกอบที่มีศักยภาพทางชีวภาพ เช่น ยับยั้งเอนไซม์หรือตัวรับเฉพาะ นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในงานวิจัยเพื่อศึกษาความตอบสนองทางเคมีและการประยุกต์ใช้ที่เป็นไปได้ในเคมียารักษา แกนไพรีมีดีนที่ไม่เหมือนใครของสารนี้ทำให้เป็นบล็อกก่อสร้างที่หลากหลายสำหรับการสร้างโมเลกุลที่ซับซ้อนมากขึ้น มักมุ่งเป้าไปที่ด้านการรักษา เช่น ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง หรือต้านไวรัส บทบาทของมันในการสังเคราะห์ยารักษาใหม่ๆ เน้นย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาการค้นพบและพัฒนายา